Honda Fit/Jazz shuttle 2011 ฮอนด้าแจ๊สเอนกประสงค์ มาแน่ปลายเดือนมีนาคม

ฮอนด้า แจ๊สรุ่นใหม่ล่าสุด เวอร์ชั่นแบบสเตชั่นแวกอน Station Wagon ซึ่งเป็นรถมินิแวนขนาดเล็ก โดยได้ปรับโฉมรถเก่งขนาดเล็กให้มีรูปทรงขยายใหญ่ขึ้น ซึ่งบริษัทยักษ์ใหญ่อย่างฮอนด้า ประเทศญี่ปุ่นเปิดเผยราคารถรุ่น honda Fit Shuttle แล้ว ยันมีรุ่นไฮบริด ซึ่งพร้อมที่จะลงตลาดอย่างแน่นอนในเดือนมีนาคม 2554 นี้

ล่าสุดความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับ honda fit ดุจะสร้างความตื่นเต้นมากยิ่งขึ้น เมื่อมีการประกาศราคาจำหน่าย อย่างไม่เป็นทางการออกมาจากค่ายรถยนต์รายนี้ โดยจะมีวางจำหน่ายทั้งรุ่นเครื่องยนต์ไฮบริดและรุ่นเครื่องยนต์ธรรมดา รวมถึงมีรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ อีกด้วย

Kia Rio เรนเดอร์ แฮทช์แบ็ค3 และ 5 ประตูมาแล้ว

Kia Rio นับเป้นรถคันล่าสุดจากค่าย Kia ที่กำลังจะมาครองใจคนทั่วโลกในเร็วๆนี้ ด้วยดีไซน์ที่ทันสมัยยิ่งในแบบแฮทช์แบ็ค ที่จะมาให้เลือกทั้ง 3 และ 5 ประตู ตามความชอบ พร้อมเส้นสายตัวถังที่ดูแข็งแกร่งยิ่งขึ้น เช่นเดียวกับใบหน้าใหม่ที่เป็นเอกลักษณ์ และความดุดันที่เพิ่มให้โฉบเฉี่ยวยิ่งขึ้นในช่วงเสา C

ตัวรถมีมิติขยายร่างให้ดูใหญ่ขึ้นกว่าเดิมจากรุ่นปัจจุบัน ที่ในโฉมใหม่นี้ รถรุ่นนี้จะมาพร้อม ความยาวกว่า เดิม 55 ม.ม. กว้างกว่าเดิม 25 ม.ม. และเตี้ยลงกว่าเดิมถึง 15 ม.ม ในขณะที่ระยะฐานล้อปรับใหม่ ให้คล่องตัวยิ่งขึ้นเพิ่มขึ้นอีก 70 ม..ม และ ด้วยเหตุนี้ ห้องโดยสารในรถรุ่นใหม่จะมีความกว้างยิ่งขึ้นเป็น 292 ลิตร ในรุ่น 3 ประตู ขณะที่รุ่น 5 ประตู โตถึง 390 ลิตร

Honda Civic Coupe Concept 2012 ฮอนด้าซีวิค 2 ประตู เปิดตัวแล้วที่ดีทรอยต์ สหรัฐอเมริกา

ใน งาน North American International Auto Show ที่รัฐดีทรอยต์ ประเทศสหรัฐอเมริกาได้เปิดตัวรถ Civic Concept coupe รถซีวิคคอนเซ็ปต์คาร์เวอร์ชั่น 2 ประตูซึ่งเป็น New Honda Civic เวอร์ชั่นที่ 9 ซึ่งจะผลิตจริงในปี 2012 และเริ่มเปิดให้จองในสหรัฐอเมริกาในปลายปีนี้

ซึ่งเป็นรถต้นแบบของ All-New Civic เจนเนอเรชั่นที่ 9 รุ่นปี 2012 ก่อนที่จะเริ่มจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาในฤดูใบไม้ผลินี้

รูปลักษณ์ภายนอกของ Civic รุ่นใหม่ทั้งสองเวอร์ชั่นนี้ ถือว่าใกล้เคียงที่สุดกับรุ่นผลิตที่กำลังจะตามมาในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า และเมื่อเปรียบเทียบกับเวอร์ชั่นซีดาน เวอร์ชั่นคูเป้จะมีด้านหน้าที่ดูุดุดันมากกว่า ดูสปอร์ตมากกว่า ไม่ดูแข็งทื่อแบบซีดาน ขณะที่เส้นหลังคาด้านหลังก็ดูลาดเอียงเรียวแหลมมากกว่าด้วยเช่นกัน Civic Coupe ได้รับการการติดตั้งดิฟฟิวเซอร์หลังที่มาพร้อมท่อไอเสียอยู่ตรงกลาง มีสปอยเลอร์ฝากระโปรงหลังที่มีช่องด้านใต้ซ้ายขวา ทั้งเวอร์ชั่นคูเป้และซีดานใช้ล้ออัลลอยขอบ 19 นิ้ว รายละเอียดอื่นๆในเรื่องรูปโฉมสามารถดูได้จากภาพประกอบที่ให้คำตอบได้ดีกว่า คำอธิบาย

ในช่วงนี้ Honda ยังไม่ได้เปิดรายละเอียดอะไรมากนักเกี่ยวกับ Civic ตัวใหม่ แต่ก็ได้เปิดเผยว่า ยังมีเวอร์ชั่น Si ที่เป็นรถสปอร์ตสมรรถนะแรง รวมถึงเวอร์ชั่นไฮบริด และรุ่นใช้แก๊สอีกด้วย โดย Civic Hybrid จะเป็นรถไฮบริดรุ่นแรกของบริษัทฯที่ใช้เซลล์แบตเตอรี่ลิเธี่ยมไอออน นอกจากนั้นยังมีระบบ Eco-Assist ที่จะมาพร้อมกับ Civic เจนเนอเรชั่นใหม่เกือบทุกรุ่น รายละเอียดอื่นๆโปรดติดตามได้ที่ AutoSpinn ในโอกาสต่อไปครับ

Audi A7 Sportback ขุมพลังแรงแต่งหล่อโดย ABT Sportsline ทั้งเบนซินและดีเซล

ABT กลับมาอีกครั้งพร้อมกับชุดแต่งโฉมและสมรรถนะสำหรับ Audi A7 Sportback ที่ทำให้เครื่องยนต์ทั้งเบนซินและดีเซลแรงขึ้นไปอีก ในส่วนของการเสริมรูปลักษณ์ A7 Sportback ได้รับการติดตั้งแอโรพาร์ทซึ่งประกอบด้วยสปอยเลอร์หน้า สเกิร์ตข้าง และกันชนหลังที่ได้รวมเอาปลายท่อไอเสียทั้งสี่เข้าไว้ด้วย ในด้านของความแรงสำหรับเครื่องยนต์ TDI 3.0 ลิตร ABT จัดให้ได้ที่ 282 แรงม้า PS แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตรจากตัวเลขเดิมที่ 245 แรงม้า PS และ 450 นิวตันเมตร ตามลำดับ ส่วนชุดแต่ง Stage II เครื่องยนต์ 3.0 TDI เดียวกันนี้สามารถแรงขึ้นได้เป็น 310 แรงม้า PS ส่วนแรงบิดสูงสุดขยับขึ้นเป็น 610 นิวตันเมตร โดยการใช้เทอร์โบชาร์จเจอร์จาก ABT เอง

เปิดตัว Acura TL รุ่นปี 2012 มาพร้อมเกียร์ Sequential SportShift 6 สปีดแบบใหม่

วันนี้ที่งาน Chicago Auto Show ได้มีการเปิดตัวครั้งแรกในโลกของ Acura TL ซีดานขนาดกลางรุ่นปี 2012 ที่มาพร้อมลุคใหม่ทั้งด้านหน้าและหลังรวมถึงระบบส่งกำลังอัตโนมัติ Sequential SportShift 6 สปีดแบบใหม่ นอกจากนั้นยังมีการอัพเกรดอุปกรณ์ต่างๆด้วยเช่นกัน แว้บแรกที่เห็นด้านหน้าของ TL จะพบว่า Acura ยังคงไว้ซึ่งแผงกระจังหน้ารูปเสื้อเกราะที่ดูนุ่มนวลมากขึ้น ไม่ดูแข็งเหมือนรุ่นก่อนๆ ไฟคู่หน้าได้รับการอกแบบใหม่รวมถึงในส่วนของกันชนที่มีการติดตั้งไฟตัดหมอกชุดใหม่ด้วยเช่นกัน เมื่อหันมามองทางด้านหลัง กันชนหลังได้รับการโยกย้ายตำแหน่งของป้ายทะเบียนรถ แถบสะท้อนแสงมีขนาดเล็กลง ไฟท้ายชุดใหม่ ปลายท่อแบบใหม่ โดยขอบฝากระโปรงหลังมีความบางมากขึ้น

Mazda MX-5 Special Edition ปี 2011 เพียง 750 คันในอเมริกา อวดโฉมที่ชิคาโก

นอกจากการเปิดตัว MX-5 รุ่นพิเศษหรือ Special Edition ไปหมาดๆที่ประเทศออสเตรเลีย Mazda เดินหน้าบุกอเมริกาต่อด้วยการเปิดตัวรถรุ่นเดียวกัน โดยมีแผนในการผลิตจำหน่ายเพียง 750 คันเท่านั้น ส่วนราคาขายเริ่มต้นที่ 30,925 เหรียญสหรัฐฯสำหรับรุ่นเกียร์ธรรมดา และ 31,525 เหรียญฯสำหรับรุ่นเกียร์อัตโนมัติ Sport AT 6 สปีด ในขณะที่ในออสเตรเลีย รถรุ่นเดียวกันนี้มีราคาขายปลีกอยู่ที่ 47,800 เหรียญสหรัฐฯ แพงกว่ากันเกือบเท่าตัว

Mazda MX-5 Special Edition นี้ใช้พื้นฐานของรุ่น GT ที่มาพร้อมหลังคาประทุนแบบ hardtop โดยมีเพียง 2 สีให้เลือก คือ สีดำ Sparkling Black Mica และสีเทา Dolphin Gray Mica วิ่งด้วยล้ออัลลอยอลูมิเนียมขอบ 17 นิ้ว ภายในห้องโดยสารถูกตกแต่งด้วยนโทนสีเทา เบาะหนังติดระบบทำความอุ่นปักตะเข็บสีเทา คันเบรคมือและพวงมาลัยหุ้มหนังสีดำตะเข็บเทา ชุดควบคุมอุปกรณ์และช่องแอร์ตกแต่งด้วยวัสดุสีโครเมี่ยม แป้นวางเท้าและคันเร่งทำด้วยอลูมิเนียมสำหรับรุ่นเกียร์ธรรมดา

ที่น่าสนใจที่สุดเห็นจะเป็นชุดกันสะเทือนใหม่ที่ได้กลายเป็นอุปกรณ์มาตรฐานไปแล้ว ประกอบด้วยโช้คอัพ Bilstein และ Differential แบบ Limited Slip ส่วนขุมพลังของ MX-5 รุ่นนี้เป็นเครื่องยนต์ 4 สูบ 2.0 ลิตร NA ให้กำลังสูงสุด 167 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 140 ปอนด์ฟุต

Mazda ยังไม่ประกาศวันที่จะเริ่มจำหน่ายแต่คาดว่าจะมีขึ้นในเร็ววันนี้หลังจากที่เปิดตัวในงาน Chicago Auto Show แล้ว

ที่มา: Mazda

Nissan ESFLOW Concept สปอร์ตคูเป้ไฟฟ้า รอพบปะประชาชนที่ Geneva Motor Show

งาน Geneva Motor Show ใกล้จะเปิดฉากขึ้น Nissan ก็ไม่พลาดที่จะนำ Concept Car ไปเปิดตัวแสดงแสนยานุภาพว่ายังเป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำของโลก และหนึ่งใน Concept Car ที่ว่าก็คือ Nissan ESFLOW สปอร์ตคูเป้ 2 ที่นั่ง พลังงานไฟฟ้า ขับเคลื่อนล้อหลัง ที่มีอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงได้ในเวลาที่ต่ำกว่า 5 วินาที
ESFLOW ถูกออกแบบมาแบบเริ่มต้นจากศูนย์ให้เป็นรถพลังไฟฟ้าโดยเฉพาะ โดยใช้เทคโนโลยีเดียวกับที่ใช้ในรถแฮทช์สุดฮ็อตพลังงานไฟฟ้าอย่าง LEAF ซึ่ง ESFLOW มีระบบขับเคลื่อนเป็นมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัวที่ได้รับการติดตั้งเหนือเพลาล้อหลังโดยไม่มีการระบุตัวเลขของกำลังที่ผลิตออกมาได้ มอเตอร์แต่ละตัวจะทำงานเป็นอิสระจากกัน โดยจะทำหน้าที่ควบคุมล้อแต่ละข้าง ซึ่ง Nissan อ้างว่าแรงบิดที่ได้จะอยู่ในระดับที่เหมาะสมเพื่อให้แน่ใจว่ารถมีเสถียรภาพที่ดีและควบคุมง่าย รวมถึงการนำพลังงานกลับมาใช้อีกครั้งอย่างมีประสิทธิภาพ
ชุดแบตเตอรี่ที่จ่ายไฟไปยังมอเตอร์ก็เป็นแบบเดี่ยวกับที่ใช้ใน LEAF ด้วยเช่นกันคือ ชุดแบตเตอรี่ลิเธี่ยมไอออน โดยจะขับเคลื่อน ESFLOW ให้ไปได้ไกล 240 กิโลเมตรต่อการชาร์จไฟเต็ม 1 ครั้ง(ระยะทางทำการ) ตัวถังจะเป็นวัสดุสังเคราะห์โดยมีโครงสร้างตัวถังทำด้วยอลูมิเนียมพร้อมกรงนิรภัย
แม้ว่าจะยังไม่มีภาพภายในของ ESFLOW แต่ Nissan เปิดเผยว่าภายในห้องโดยสารจะดูสะอาดและเปิดโล่ง ส่วนเรื่องของน้ำหนักก็เป็นเรื่องหนึ่งที่บริษัทฯให้ความสำคัญมากที่สุดในการออกแบบด้วยเช่นกัน
รูปทรงแบบนี้ทำให้อยากจะเห็นตัวจริงว่าจะสวยล้ำอนาคตแค่ไหน!!