ในเรื่องของรูปลักษณ์ภายนอกของ Toyota Yaris Hybrid รุ่นใหม่นี้ อาจไม่ได้ถึงกับเปลี่ยนโฉมไปเลยซะทีเดียว เพราะเป็นการพัฒนาดีไซน์ขึ้นจากรุ่นเดิม แต่เพิ่มความโฉบเฉี่ยวให้ดูไฉไล เพื่อสร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัวให้ดูโดดเด่นยิ่งขึ้น โดยยังคงความเป็นรถสไตล์แฮทช์แบ็ค 5 ประตูเอาไว้ ทว่าไฟหน้าถูกปรับมาเป็นไฟโปรเจคเตอร์ ส่วนไฟท้ายเป็นไฟ LED ดีไซน์สปอร์ต
ด้านภายในของตัวรถนั้นมีการปรับเปลี่ยนอยู่หลายจุดอยู่เหมือนกัน เพื่อให้ดูทันสมัยมากขึ้น แต่ถือว่าทำออกมาได้ดีอยู่พอสมควร ไม่ว่าจะเป็นไฟมาตรวัด จอภาพทัชสกรีน ปุ่มสตาร์ตเครื่อง เบาะรถ หรือเบรกมือ เป็นต้น ส่วนบริเวณห้องโดยสารก็กว้างขวาง สะดวกสบาย รวมไปถึงพื้นที่เก็บของท้ายรถเช่นเดียวกัน
ทั้ง นี้ โตโยต้า ยาริส ไฮบริด (Toyota Yaris Hybrid) มาพร้อมกับเทคโนโลยีไฮบริดเต็มระบบ ซึ่งมีช่วยในเรื่องของการประหยัดน้ำมันได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังมีระบบ Hybrid Synergy Drive (HSD) ที่ได้รับการออกแบบใหม่โดยลดขนาดลงให้มีน้ำหนักเบากว่ารุ่น Auris Hybrid ถึง 20 เปอร์เซ็นต์ ประกอบด้วยเครื่องเบนซินใหม่ 4 สูบ 1.5 ลิตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า อินเวอร์เตอร์ และแบตเตอรี่ทรงประสิทธิภาพ DOHC 16 วาล์ว พร้อมวาล์วอัจฉริยะ VVT-i ให้กำลังสูงสุด 74 แรงม้า ที่ 4,800 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 111 นิวตันเมตร ที่ 3,600 รอบ/นาที
ในส่วนของมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 60 กิโลวัตต์ (80 แรงม้า) และแรงบิด 207 นิวตันเมตร และเมื่อทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์กับมอเตอร์ไฟฟ้าให้พละกำลังที่ 100 แรงม้า โดยเมื่อชาร์จแบตเตอรี่เต็มความจุจะสามารถวิ่งด้วยโหมดไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว ได้ไกล 1.93 กิโลเมตร
ทางด้านสมรรถนะของ Toyota Yaris Hybrid นั้น สามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในเวลา 11.8 วินาที และทำความเร็วได้สูงสุด 165 กิโลเมตร/ชั่วโมง นอกจากนี้ยังมีอัตราการกินน้ำมันเฉลี่ยอยู่ที่ 28.57 กิโลเมตร/ลิตร และปล่อยไอเสียต่ำเพียง 79 กรัม/กิโลเมตร เรียกได้ว่าช่วยในเรื่องของการประหยัดน้ำมันแบบสุด ๆ
ใคร ที่กำลังมองหารถยนต์ไฮบริดที่มีความโดดเด่นเรื่องของความประหยัด อีกทั้งยังมีรูปลักษณ์ที่มีความสวยงาม Toyota Yaris Hybrid ก็นับเป็นตัวเลือกที่ดูน่าสนใจอยู่ไม่น้อย อย่างไรก็ดี ยังไม่มีการประกาศราคาจำหน่ายในประเทศไทยออกมาให้ทราบในขณะนี้ ซึ่งหากมีความคืบหน้าเมื่อไหร่ เราจะรีบนำข่าวมาแจ้งให้ได้ทราบในทันทีครับ
